ผู้เขียน หัวข้อ: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ  (อ่าน 18926 ครั้ง)

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #150 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2024, 10:44:51 am »
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #151 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2024, 14:26:58 pm »
**ท่อน้ำดี** เป็นท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำเสียจากสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ โถส้วม เป็นต้น ท่อน้ำดีที่ดีจะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว

**ประเภทของท่อน้ำดี**

ท่อน้ำดีที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

* **ท่อเหล็ก** ท่อเหล็กมีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อการกัดกร่อน แต่มีน้ำหนักมาก และติดตั้งยาก

* **ท่อพีวีซี** ท่อพีวีซีมีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อการกัดกร่อน ไม่ลามไฟ ราคาไม่แพง และติดตั้งง่าย


**การเลือกท่อน้ำดี**

ในการเลือกท่อน้ำดี ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

* **ขนาดของท่อ** ควรเลือกขนาดของท่อให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำเสียที่จะระบาย
* **วัสดุที่ใช้ทำท่อ** ควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และทนต่อการกัดกร่อน
* **ราคา** ควรเลือกท่อที่ราคาเหมาะสมกับงบประมาณ

**การติดตั้งท่อน้ำดี**

การติดตั้งท่อน้ำดีควรดำเนินการโดยช่างประปาที่มีประสบการณ์ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือเฉพาะ

**การดูแลรักษาท่อน้ำดี**

ท่อน้ำดีควรได้รับการดูแลรักษาเป็นประจำ เพื่อป้องกันการอุดตันและความเสียหาย โดยวิธีการดูแลรักษาท่อน้ำดี มีดังนี้

* **ตรวจสอบท่อเป็นประจำ** หมั่นตรวจดูสภาพของท่อว่ามีรอยแตกร้าว รอยรั่ว สนิม หรือคราบสกปรกหรือไม่ หากพบปัญหาควรรีบแก้ไขทันที
* **ล้างทำความสะอาดท่อ** ควรล้างทำความสะอาดท่อเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรก คราบตะกรัน และไขมันที่สะสมอยู่ภายในท่อ เพื่อป้องกันท่ออุดตัน
* **ป้องกันท่ออุดตัน** ควรป้องกันไม่ให้ท่ออุดตันโดยหลีกเลี่ยงการทิ้งเศษอาหาร เศษวัสดุ หรือสิ่งสกปรกลงในท่อ
* **ซ่อมแซมท่อที่เสียหาย** หากท่อเกิดการชำรุดเสียหายควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนท่อใหม่ทันที เพื่อป้องกันการลุกลามของความเสียหาย

**ประโยชน์ของการดูแลรักษาท่อน้ำดี**

การบำรุงรักษาท่อน้ำดีอย่างสม่ำเสมอมีประโยชน์ดังนี้

* **ช่วยให้ท่อมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น**
* **ป้องกันท่ออุดตัน**
* **ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ เช่น ท่อแตกร้าว ท่อรั่ว เป็นต้น**
* **ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนท่อใหม่**

**สรุป**

ท่อน้ำดีเป็นส่วนสำคัญในระบบสุขาภิบาลภายในบ้าน หากดูแลรักษาท่อน้ำดีอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ท่อมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ป้องกันการอุดตัน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุต่างๆ
โปรโมชั่นสำหรับคุณ เครื่องเชื่อมท่อ ppr
ท่อppr คือppr pipe
ขนาดท่อ ppr

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #152 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2024, 09:46:56 am »


ใช้ที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร ปลูกแค่ 1 ไร่ก็ทำได้ จ่ายภาษีเพียง 0.01%
ประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำของจำนวนไม้ต้น ไม้ผล ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จึงจะสามารถเรียกว่าใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมได้และจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพียง 0.01% เท่านั้น แต่หากปล่อยให้รกร้างหรือใช้ประโยชน์ด้านอื่นจะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 0.30% ซึ่งมากกว่าภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรถึง 30 เท่า
หลายคนจึงหันมาเปลี่ยนที่ดินเปล่า เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งที่ง่ายที่สุดและเห็นกันเกลื่อนตาคือการปลูกกล้วย ปลูกมะพร้าว แต่รู้หรือไม่ยังมีไม้ผลอีกหลายชนิดที่สามารถปลูกในที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรได้

•อัปเดตอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
การใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามความหมายของคำว่า “ประกอบการเกษตร” ในระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม แต่ไม่รวมถึงการทำการประมงและการทอผ้า การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรยังหมายความรวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ต่อเนื่องที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมนั้นด้วย

การกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ปีภาษี 2565-2566 โดยคงอัตราภาษีแบบเดิมเช่นเดียวกับปีภาษี 2563 และ 2564 มีสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ดินเพื่อการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.01-0.1%
ที่อยู่อาศัย แบ่งเป็น
2.1 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.03-0.1%
2.2 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
2.3 บ้านหลังอื่น ๆ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
การใช้ประโยชน์อื่น หรือใช้เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่ดินว่างเปล่าที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #153 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2024, 10:32:58 am »
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #154 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2024, 13:31:25 pm »


ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับที่ดินบางประเภท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ให้ลดภาษีในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เคยได้รับการลดภาษี ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านล้างรถ และห้างสรรพสินค้า
2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี 50% ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 เมื่อคำนวณลดภาษีในอัตรา 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียแล้ว ให้ลดภาษีลงอีกในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่ลดไปแล้ว 50% ตัวอย่างกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 50% ได้แก่
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เฉพาะทรัพย์สินที่บุคคลดังกล่าวได้มาทางมรดกและได้จดทะเบียนแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
– ที่ดินที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้า
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อน
3. กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ตามพ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 แล้ว จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะมีอัตราการลดภาษีสูงสุดอยู่ที่ 90% ได้แก่
– โรงเรียนในระบบ
– โรงเรียนนอกระบบ (ประเภทสอนศาสนา ตาดีกา ปอเนาะ)
– สวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
– สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก
รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ที่มา ddproperty

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #155 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2024, 13:48:39 pm »
**ท่อ PPR คืออะไร**

ท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) คือท่อพลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโพรไพลีน (PP) ชนิด Random Copolymer ซึ่งเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน และสารเคมี ท่อ PPR นิยมใช้ในงานระบบประปา ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น รวมถึงงานระบบท่ออื่นๆ เช่น ระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน เป็นต้น

**คุณสมบัติของท่อ PPR**

* มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน และสารเคมี
* ทนทานต่อการเกิดสนิมและตะกรัน
* ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า
* ปลอดสารพิษ
* สะอาด ถูกสุขอนามัย
* น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
* มีราคาไม่แพง

**ประเภทของท่อ PPR**

ท่อ PPR แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามชั้นความดัน คือ

* **ท่อ PPR ชนิด PN10** ทนแรงดันได้ 10 บาร์ เหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำเย็นและน้ำร้อน

* **ท่อ PPR ชนิด PN20** ทนแรงดันได้ 20 บาร์ เหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำร้อนที่มีแรงดันสูง


**ข้อดีของการใช้ท่อ PPR**

ท่อ PPR มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* มีความแข็งแรง ทนทาน จึงมีอายุการใช้งานยาวนาน
* ทนต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง จึงเหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำร้อน
* ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า จึงปลอดภัยจากไฟฟ้าช็อต
* ปลอดสารพิษ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพ
* สะอาด ถูกสุขอนามัย จึงเหมาะสำหรับใช้ในงานระบบประปา
* น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย จึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

**การใช้งานท่อ PPR**

ท่อ PPR นิยมใช้ในงานระบบประปา ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น รวมถึงงานระบบท่ออื่นๆ เช่น ระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งานท่อ PPR มีดังนี้

* ระบบประปาภายในอาคาร เช่น ท่อน้ำประปา ท่อน้ำร้อน ท่อน้ำเย็น
* ระบบประปาภายนอกอาคาร เช่น ท่อน้ำประปาในสวน ท่อน้ำประปาในโรงงานอุตสาหกรรม
* ระบบทำความเย็น เช่น ท่อน้ำยาแอร์
* ระบบทำความร้อน เช่น ท่อน้ำร้อนในระบบทำความร้อน

**สรุป**

ท่อ PPR เป็นท่อพลาสติกคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ จึงนิยมใช้ในงานระบบประปาและงานระบบท่ออื่นๆ ท่อ PPR มีข้อดีหลายประการ เช่น มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน
และสารเคมี ทนทานต่อการเกิดสนิมและตะกรัน ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ปลอดสารพิษ สะอาด ถูกสุขอนามัย และน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ เครื่องเชื่อมท่อ ppr ท่อppr คือppr pipeขนาดท่อ ppr

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #156 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2024, 09:54:19 am »
รั้วตาข่าย

รั้วตาข่ายเป็นรั้วชนิดหนึ่งที่ทำจากตาข่าย ตาข่ายเป็นวัสดุที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ สามารถใช้ทำรั้วได้หลายรูปแบบ เช่น รั้วตาข่ายถักปม รั้วตาข่ายลวด รั้วตาข่ายเหล็ก เป็นต้น รั้วตาข่ายทำหน้าที่กั้นขอบเขตของพื้นที่หรือทรัพย์สิน
ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลหรือสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงามให้กับพื้นที่อีกด้วย

ประเภทของรั้วตาข่าย

รั้วตาข่ายมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของตาข่ายที่ใช้ทำและรูปแบบของรั้ว ประเภทของรั้วตาข่ายที่นิยม ได้แก่

รั้วตาข่ายถักปม เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ถักทอเป็นปม รั้วตาข่ายถักปมมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ
รั้วตาข่ายลวด เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ยึดติดกันด้วยลวด รั้วตาข่ายลวดมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถติดตั้งได้ง่าย
รั้วตาข่ายเหล็ก เป็นรั้วตาข่ายที่มีลักษณะเป็นช่องว่างเล็กๆ ผลิตจากเหล็ก รั้วตาข่ายเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน และสามารถป้องกันสัตว์ขนาดใหญ่ได้ดี
ข้อดีและข้อเสียของรั้วตาข่าย

ข้อดี

แข็งแรงและทนทาน
ติดตั้งง่าย
ราคาไม่แพง
สามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ
มองเห็นวิวด้านนอกได้
ข้อเสีย

อาจไม่ปลอดภัยต่อบุคคลหรือสัตว์ขนาดเล็ก
อาจทำให้ทัศนียภาพดูไม่สวยงาม
การติดตั้งรั้วตาข่าย

การติดตั้งรั้วตาข่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจ้างช่างมืออาชีพ ขั้นตอนการติดตั้งรั้วตาข่าย มีดังนี้

เตรียมพื้นที่ ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
ทำฐานราก ฐานรากเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรั้ว ฐานรากของรั้วตาข่ายมีหลายประเภท เช่น ฐานรากเสาเข็ม ฐานรากเสาตอม่อ เป็นต้น
ติดตั้งเสา เสาเป็นโครงสร้างหลักของรั้ว เสารั้วมีหลายประเภท เช่น เสาไม้ เสาเหล็ก เสาคอนกรีต เป็นต้น
ติดตั้งตาข่าย ติดตั้งตาข่ายตามรูปแบบที่ต้องการ
ตกแต่งรั้ว ตกแต่งรั้วให้มีความสวยงามตามต้องการ เช่น ทาสี ติดลวดลาย เป็นต้น
การดูแลรักษารั้วตาข่าย

การดูแลรักษารั้วตาข่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

ตรวจสอบรั้วเป็นประจำ หากพบรอยขาดหรือชำรุด ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
ทาสีรั้วเป็นประจำ เพื่อให้รั้วดูสวยงามและป้องกันสนิม
รั้วตาข่ายเป็นรั้วที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และราคาไม่แพง รั้วตาข่ายเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เช่น พื้นที่รอบบ้าน โรงงาน สถานที่ราชการ เป็นต้น
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #157 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2024, 10:39:40 am »
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #158 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2024, 14:06:26 pm »
ท่อเมนประปา: หัวใจสำคัญของระบบน้ำ
ท่อเมนประปา เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของระบบประปาภายในอาคาร ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำดิบ ผ่านระบบกรอง ไปยังจุดจ่ายน้ำต่างๆ ทั่วทั้งอาคาร การออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาที่ถูกต้อง จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้น้ำ ความปลอดภัย และสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย

ประเภทของท่อเมนประปา
ท่อเมนประปาสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ ดังนี้

ท่อเมนประปาเหล็ก: มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน แต่มีราคาสูง ติดตั้งยาก และอาจเกิดสนิมได้
ท่อเมนประปา UPVC: มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ทนต่อแรงดันและสารเคมี แต่มีความยืดหยุ่นต่ำ ไม่ควรใช้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง
ท่อเมนประปา HDPE: มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อแรงดันและสารเคมี ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานฝังดิน
ท่อเมนประปา PEX: มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานภายในอาคาร
การเลือกขนาดท่อเมนประปา
ขนาดของท่อเมนประปา ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

ปริมาณการใช้น้ำ: อาคารที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ย่อมต้องการท่อเมนขนาดใหญ่
แรงดันน้ำ: แรงดันน้ำในระบบประปา ส่งผลต่อขนาดท่อเมนที่ต้องใช้
ระยะทางเดินท่อ: ระยะทางที่ยาว จำเป็นต้องใช้ท่อเมนขนาดใหญ่
การติดตั้งท่อเมนประปา
ควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์ และมีความรู้เกี่ยวกับระบบประปา
เลือกใช้ท่อเมนที่มีคุณภาพดี ตรงตามมาตรฐาน
ติดตั้งท่อเมนให้ลาดเอียง เพื่อให้น้ำไหลสะดวก
ทดสอบแรงดันน้ำหลังการติดตั้ง
การบำรุงรักษาท่อเมนประปา
ตรวจสอบท่อเมนประปาเป็นประจำ เพื่อหาจุดรั่วซึม
ทำความสะอาดท่อเมนประปาอย่างสม่ำเสมอ
เปลี่ยนท่อเมนประปาเมื่อเก่าหรือชำรุด
บทสรุป
ท่อเมนประปา เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบประปา การออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาที่ถูกต้อง ช่วยให้น้ำไหลสะดวก ปลอดภัย และส่งผลต่อสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย

เพิ่มเติม:

บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับท่อเมนประปา
ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ก่อนการออกแบบ ติดตั้ง หรือบำรุงรักษาท่อเมนประปา

โปรโมชั่นสำหรับคุณ เครื่องเชื่อมท่อ ppr ท่อppr คือppr pipeขนาดท่อ ppr

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #159 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2024, 09:47:03 am »
**ทำสวนแบบง่าย**

การทำสวนเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาไม่นาน ลงทุนไม่มาก และสามารถตกแต่งสวนให้สวยงามได้ตามความต้องการ

**การเตรียมพื้นที่ทำสวน**

การเตรียมพื้นที่ทำสวน มีดังนี้

* **เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม** พื้นที่ทำสวนควรมีแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
* **ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน**
* **ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน**
* **ทำร่องหรือหลุมสำหรับปลูกต้นไม้**

**การเลือกต้นไม้สำหรับทำสวน**

การเลือกต้นไม้สำหรับทำสวน ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น

* **ความชอบส่วนตัว**
* **สภาพอากาศ**
* **ขนาดของพื้นที่**
* **ระยะเวลาในการเจริญเติบโต**

**วิธีการปลูกต้นไม้**

วิธีการปลูกต้นไม้ มีดังนี้

* **การปลูกต้นไม้ด้วยเมล็ด**
* **การปลูกต้นไม้ด้วยต้นกล้า**
* **การปลูกต้นไม้ด้วยการปักชำ**

**การดูแลรักษาต้นไม้**

การดูแลรักษาต้นไม้ มีดังนี้

* **การให้น้ำ** รดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
* **การให้ปุ๋ย** ใส่ปุ๋ยบำรุงดินปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน
* **การตัดแต่งกิ่ง** ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว
* **การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช** หมั่นตรวจดูต้นไม้เป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

**เคล็ดลับการทำสวนแบบง่าย**

เคล็ดลับการทำสวนแบบง่าย มีดังนี้

* **เลือกต้นไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลรักษาง่าย**
* **จัดวางต้นไม้ให้เหมาะสมกับพื้นที่**
* **หมั่นดูแลรักษาต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ**

การทำสวนแบบง่ายสามารถทำได้ทุกคน แม้แต่ผู้ที่มีเวลาน้อยหรือพื้นที่จำกัด การทำสวนนอกจากจะทำให้บ้านร่มรื่นและสวยงามแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตอีกด้วย

**ตัวอย่างการทำสวนแบบง่าย**

การทำสวนแบบง่ายสามารถทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณที่มี ตัวอย่างการทำสวนแบบง่าย ได้แก่

* **การทำสวนผักสวนครัว** เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักรับประทานเอง ผักสวนครัวที่นิยมปลูก ได้แก่ ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักไชยา แตงกวา เป็นต้น
* **การทำสวนดอกไม้** เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งสวนให้สวยงาม ดอกไม้ที่นิยมปลูก ได้แก่ ดอกดาวเรือง ดอกบานชื่น ดอกพุด ดอกกุหลาบ เป็นต้น
* **การทำสวนไม้ประดับ** เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกไม้ประดับที่มีความสวยงาม ไม้ประดับที่นิยมปลูก ได้แก่ ต้นไทรใบสัก ต้นกระบองเพชร ต้นบอนสี เป็นต้น

หากต้องการทำสวนแบบง่าย สามารถเลือกรูปแบบการทำสวนที่ตนเองชอบ และปฏิบัติตามขั้นตอนและเคล็ดลับที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การทำสวนก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #160 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2024, 10:24:09 am »
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #161 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2024, 16:02:41 pm »
ลวดหนาม มีกี่ประเภท

ลวดหนามมี 2 แบบ
ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามหีบเพลง
1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

  1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
ลวดหนามทั่วไป

ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
 ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย  ขึงไม่ตึง หย่อน  รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง  ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #162 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2024, 16:52:25 pm »
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #163 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2024, 09:50:25 am »
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ruataewada

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
    • ดูรายละเอียด
    • https://sakara.store/
Re: ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีกี่แบบ
« ตอบกลับ #164 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2024, 10:58:16 am »
**สนิม**

สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนและธาตุเหล็ก เกิดเป็นรอยของการเกิดการผุกร่อน เป็น Corrosion ประเภทหนึ่งซึ่งมักเกิดกับโลหะจำพวกเหล็ก

การเกิดสนิมสามารถอธิบายได้ดังนี้

* **ปัจจัยทางเคมี** เหล็กเป็นโลหะที่มีอิเล็กโทรดศักย์ต่ำ เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ เหล็กจะสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจน เกิดเป็นสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่เรียกว่า สนิม

* **ปัจจัยทางกายภาพ** ความชื้นในอากาศ น้ำฝน และน้ำใต้ดิน เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดสนิม

* **ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม** อุณหภูมิที่สูง จะทำให้ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเกิดขึ้นเร็วขึ้น

สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับโลหะจำพวกเหล็ก ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของโลหะและทำให้อายุการใช้งานของโลหะลดลง

วิธีป้องกันสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การเคลือบผิวโลหะ** ด้วยสารเคลือบผิว เช่น อีพ็อกซี่ โพลียูรีเทน หรือสีทาบ้าน จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การชุบโลหะ** ด้วยสารกันสนิม เช่น สังกะสี โครเมียม หรือนิกเกิล จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การบำรุงรักษาโลหะ** โดยหมั่นทำความสะอาดโลหะและทาสีซ้ำเมื่อสีเดิมเสื่อมสภาพ

หากพบสนิมบนโลหะ ควรรีบกำจัดสนิมออกโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้สนิมลุกลามไปทำลายเนื้อโลหะ

วิธีกำจัดสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การใช้สารเคมี** เช่น น้ำยากัดสนิม หรือน้ำยาขัดสนิม

* **การใช้ความร้อน** เช่น การเชื่อม การเผา หรือการใช้เครื่องเจียร

* **การใช้วิธีทางกายภาพ** เช่น การขัด การถู หรือการใช้แปรงลวด

การเลือกใช้วิธีกำจัดสนิมที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากชนิดของสนิม สภาพของโลหะ และสภาพแวดล้อม
ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google